บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ต้องการค้นหาคำตอบประการหนึ่งว่า ระบบเกษตรผสมผสานที่มีข้าวหอมมะลิอินทรีย์เป็นพืชหลักจะมีศักยภาพเพียงใดในการเป็นอาชีพทางเลือกในการแก้ไขปัญหาความยากจน จึงได้ ใช้วิธีการวิจัยแบบสำรวจเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยมีเกษตรกรผู้ทำเกษตรผสมผสาน จำนวน 119 ราย ใน จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี จ.อำนาจเจริญ จ.ยโสธร และ จ.ร้อยเอ็ด งานวิจัยอยู่ในช่วงตุลาคม 2547-มีนาคม 2549 ผลการศึกษาพบว่า เกษตรผสมผสานที่มีข้าวหอมมะลิอินทรีย์เป็นพืชหลัก เป็นระบบเกษตรกรรมที่เป็นอาชีพทางเลือกที่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยเหตุผล 5 ประการ ได้แก่ 1) ความมั่นใจในการประกอบอาชีพเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน 2) การลดรายจ่ายค่าอาหารในครัวเรือน 3) การลดรายจ่ายปัจจัยการผลิต 4) การเพิ่มรายได้จากฟาร์ม 5) การฟื้นฟูระบบนิเวศแปลงนาให้มีความอุดมสมบรูณ์ของดิน และมีความสมดุลตามธรรมชาติระดับของเกษตรผสมผสานที่มีข้าวหอมมะลิอินทรีย์เป็นพืชหลัก ในการเป็นอาชีพทางเลือกที่มีศักยภาพในการแก้ไขความยากจนขึ้นกับความเข้มข้นของส่วนประกอบของเกษตรผสมผสาน 5 ประการ ได้แก่ 1) การสร้างระบบเกษตรที่มีลักษณะผสมผสานและหลากหลาย และใช้ประโยชน์หรือเกื้อกูลกันของการผลิต 2) การพึ่งพาปัจจัยการผลิตในฟาร์มของตนเองมากที่สุด 3) การผลิตหลักชนิดอื่น ซึ่งเป็นผลผลิตที่ตลาดต้องการ และตามศักยภาพ
พื้นที่จะเป็นการสร้างรายได้แก่เกษตรกร 4) เกษตรกรต้องขยันเก็บผลผลิตแม้มีไม่มากนักออกขายเป็นประจำ 5) เกษตรกรควรอาศัยอยู่ในฟาร์มเพื่อดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด