การสำรวจครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะศึกษาทัศนคติของนักวิชาการที่มีต่อการวิจัยระบบการทำฟาร์ม นักวิชาการที่ให้ข้อมูลทั้งหมดจำนวน 24 ราย และเป็นผู้เข้าร่วมสัมนาเรื่อง การประสานงานเพื่อการวิจัยและพัฒนาระดับไร่นา เมื่อวันที่ 26-27 กรกฎาคม 2532 จัดดโดยสถาบันวิจัยฟาร์ม กรมวิชาการเกษตร ณ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จากการสำรวจครั้งนี้กล่าวได้ว่า นักวิชาการเกษตรจากกองต่างๆ ของกรมวิชาการเกษตร อาทิเช่น กองกีฏและสัตววิทยา กองแผนงานและวิชาการ กองโรคพืชและจุลชีววิทยา กองเกษตรวิศวกรรม หน่วยวิจัยและพัฒนาระบบทำฟาร์มพัทลุง ศูนย์วิจัยยางสงขลา และศูนย์วิจัยข้าวพัทลุง มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อหลักการและขั้นตอนต่างๆ ของการวิจัยระบบการทำฟาร์ม ยังมีนักวิชาการเกษตรมีทัศนคติว่า ในการวิจัยการเกษตรนั้นการวิจัยเพื่อมุ่งเพิ่มผลผลิตต่อหน่วยพื้นที่ยังเป็นเรื่องท ี่สำคัญที่สุด ซึ่งความจริงแล้ว ในการวิจัยการเกษตร โดยเฉพาะสำหรับเกษตรกรรายย่อยผู้มีรายได้น้อย การเพิ่มผลผลิตต่อหน่วยพื้นที่อาจไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่สำคัญของการวิจัยก็ได้ แต่ในการตรงกันข้ามการวิจัยเพื่อให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยีที่เหมาะสมและสอดคล้องกับทรั พยากรที่เกษตรกรมีอยู่ หรือเป็นเทคโนโลยีที่จะไปเกื้อหนุนองค์ประกอบอื่นๆ ในระบบไร่นา ให้มีการนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น หรือสามารถที่จะทำให้องค์ประกอบอื่นๆ ในระบบไร่นาสามารถยืนยงต่อไปได้ ก็เป็นเรื่องสำคัญ หากจะมีการนำเอาหลักการและขั้นตอนต่างๆ ของการวิจัยระบบฟาร์มไปปฏิบัติ ในหน่วยงานดังที่กล่าวมา คาดว่าจะได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากนักวิชาการที่สังกัดอยู่ในหน่วยงานนั้นเป็ นอย่างดี เพราะนักวิชาการเหล่านี้มีทัศนคติที่ถูกต้องและยังเชื่อว่าหน่วยงานของตนพร้อมที่จะ เอาวิธีการวิจัยดังกล่าวไปใช้ นอกเหนือจากนี้นักวิชาการเกษตรยังมีความเห็นว่าน่าจะได้นำเอาวิธีการนี้ไปปฏิบัติใน หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการเกษตรอีกด้วย