การทดสอบและพัฒนาระบบการผลิตและเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตสับปะรดแบบมีส่วนร่วมของเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออก ดำเนินการโดยใช้เทคโนโลยีภายใต้ระบบการจัดการคุณภาพ : GAP สับปะรด เปรียบเทียบกับวิธีของเกษตรกร ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จำนวน 5 ราย พื้นที่รวม 20 ไร่ และจังหวัดตราด 5 ราย พื้นที่รวม 20 ไร่ ซึ่งผลจากการดำเนินงานในพื้นที่เกษตรกรจังหวัดชลบุรี พบว่าวิธีแนะนำได้ผลผลิต 5,869.5 กก./ไร่ มีรายได้ 29,347.5 บาท/ไร่ ได้ผลตอบแทน 9,722 บาท/ไร่ วิธีเกษตรกรได้ผลผลิต 5,355.68 กก./ไร่ มีรายได้ 26,778.38 บาท/ไร่ ได้ผลตอบแทน 6,584.88 บาท/ไร่ จากผลการดำเนินงานพบว่าวิธีแนะนำได้ผลผลิตสับปะรดมากกว่าวิธีของเกษตรกรคิดเป็นร้อยละ 9 จะเห็นว่าวิธีแนะนำได้ผลผลิตและผลตอบแทนสูงกว่าวิธีเกษตรกร ดังนั้นเทคโนโลยีการผลิตสับปะรดคุณภาพตามระบบ GAP จึงน่าจะเป็นเทคโนโลยีการผลิตทางเลือกที่เหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่เกษตรกร สามารถทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีรายจ่ายน้อยลงได้ ส่วนจังหวัดตราดเกษตรกรที่ปลูกสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย พบว่าวิธีแนะนำได้ผลผลิตเฉลี่ย 4,513.05 กก./ไร่ มีรายได้ 22,565.25 บาท/ไร่ และได้ผลตอบแทน 10,207.75 บาท/ไร่ วิธีเกษตรกรได้ผลผลิตเฉลี่ย 4,253 กก./ไร่ มีรายได้ 21,265 บาท/ไร่ และได้ผลตอบแทน 10,101.25 บาท/ไร่ ซึ่งวิธีแนะนำได้ผลผลิตมากกว่าวิธีเกษตรกรคิดเป็นร้อยละ 6 จากการดำเนินงานเห็นว่าวิธีแนะนำได้ผลผลิตและผลตอบแทนสูงกว่าวิธีเกษตรกรแต่มีต้นทุนผันแปรสูงกว่าวิธีเกษตรกรทำให้มีค่า BCR ต่ำกว่า ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวสรุปได้ว่าเทคโนโลยีการผลิตสับปะรดของเกษตรกรนั้นดีอยู่แล้ว และวิธีแนะนำให้ผลผลิตที่มีน้ำหนักต่อผลมากกว่า จึงน่าจะมีการนำเอาเทคโนโลยีการผลิตสับปะรดคุณภาพตามระบบ GAP ไปปรับใช้ร่วมกับวิธีการของเกษตรกรเพื่อให้เกษตรกรได้ผลผลิตและผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าเดิม ส่วนเกษตรกรที่ปลูกสับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง พบว่าวิธีแนะนำได้ผลผลิตเฉลี่ย 4,523.3 กก./ไร่ มีรายได้ 24,426 บาท/ไร่ ได้ผลตอบแทน 11,275.17 บาท/ไร่ วิธีเกษตรกรได้ผลผลิตเฉลี่ย 4,329.83 กก./ไร่ มีรายได้ 23,381.1 บาท/ไร่ ได้ผลตอบแทน 9,430.27 บาท/ไร่ ซึ่งวิธีแนะนำได้ผลผลิตเฉลี่ยมากกว่าวิธีของเกษตรกรคิดเป็นร้อยละ 4 จากข้อมูลดังกล่าวจึงควรมีการแนะนำและส่งเสริมเทคโนโลยีการปลูกสับปะรดคุณภาพตามระบบ GAP ให้กับเกษตรกรต่อไป เพื่อให้ได้ผลผลิตและมีรายได้เพิ่มขึ้น