รายละเอียดบทคัดย่อ


 . ศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชตามแนวพระราชดำริ “ทฤษฎีใหม่” จังหวัดนครพนม.  ใน: รายงานการสัมมนาระบบเกษตรแห่งชาติ ครั้งที่ 6 :ระบบเกษตรเพื่อความสมดุลของชีวิตและสิ่งแวดล้อม (Agricultural Systems - Save the World to Save Life) . ระหว่างวันที่ 16-18 สิงหาคม 2553 ณ โรงแรมเจ.บี. อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา.  น.530-541.

บทคัดย่อ

         กรมวิชาการเกษตร ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการพื้นที่ดินและน้ำ ร่วมกับผลงานวิจัยด้านเทคโนโลยีการผลิตพืชทั้งระบบ เพื่อให้เห็นเป็นรูปธรรมง่ายต่อความเข้าใจของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมและเรียนรู้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชตามแนวพระราชดำริ “ทฤษฎีใหม่” จังหวัดนครพนมขึ้นเมื่อต้นปี พ.ศ. 2552 จำนวน 2 แห่ง คือ พื้นที่ตำบลหนองแสง และตำบลขามเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม โดยศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชฯ แห่งแรกเน้นหนักด้านการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีเป็นหลัก พื้นที่ 15 ไร่ ส่วนที่สอง เน้นหนักด้านการปฏิบัติตามแนวพระราชดำริ พื้นที่ 7.5 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่ดำเนินการออกเป็น 4 ส่วนดังนี้ ส่วนที่ 1 พื้นที่สระน้ำ 1 ไร่ มีกิจกรรมเลี้ยงปลากินพืช เช่น ปลานิล ตะเพียน ไน และยี่สก ส่วนที่ 2 นาข้าว4.5 ไร่ มีกิจกรรมการปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 และการปลูกพืชหลังนา เช่น ข้าวโพด แตงโม และหอมแบ่ง ส่วนที่ 3 พืชผสมผสาน 1.5 ไร่ มีกิจกรรมการปลูกไม้ผล เช่น มะม่วง ชมพู่ และมะไฟ พืชผักอายุยืน อายุสั้น และพืชหมุนเวียนอื่นๆ และส่วนที่ 4 ที่อยู่อาศัย 0.5 ไร่ ประกอบด้วยบ้านพัก ปศุสัตว์และโรงเห็ด จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2552 สรุปผลได้ ดังนี้ ทั้ง 4 ส่วนมีรายได้ตลอดทั้งปี 104,375 บาท และมีรายจ่ายทั้งหมด 39,139 บาท เหลือเงินหักค่าใช้จ่าย 65,236 บาท ด้านรายได้พบว่า ส่วนที่ 2 สูงที่สุด คือ 60,234บาท รองลงมาได้แก่ส่วนที่ 4 และส่วนที่ 3 คือ 25,858 และ 17,383 บาท ตามลำดับ และส่วนที่ 1 น้อยที่สุด คือ 900บาท ด้านรายจ่ายพบว่า ส่วนที่ 4 สูงที่สุดคือ 21,330 บาท รองลงมาได้แก่ ส่วนที่ 2 และส่วนที่ 3 คือ 9,509 และ8,300 บาท ตามลำดับ และเมื่อวิเคราะห์ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม 2552พบว่า ส่วนที่ 2 มีผลตอบแทนสูงที่สุด คือ 50,725 บาท รองลงมาได้แก่ ส่วนที่ 3 ส่วนที่ 4 คือ 9,083 และ 4,528บาท ตามลำดับ ส่วนที่ 1 น้อยที่สุด คือ 900 บาท แต่การดำเนินงานทั้ง 4 ส่วนนั้นจะต้องเกื้อกูลกันไป จึงจะทำให้เกิดการพัฒนาไปสู่ความสำเร็จได้